Legal dld

25650115 1
วันที่ 15 มกราคม 2565 นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า หลังการประชุมหารือกับนายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดในสุกรที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้กรมปศุสัตว์เร่งแก้ปัญหาในประเด็นราคาเนื้อสุกรแพงที่มาจากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง โดยส่วนหนึ่งเกิดจากปัจจัยด้านต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ที่มีผลมาจากอาหารสัตว์ที่ปรับราคาเพิ่มขึ้น จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ สำนักพัฒนาอาหารสัตว์ เร่งศึกษาและหาแนวทางในการผลิตอาหารสัตว์เพื่อลดต้นทุนด้านอาหารสัตว์และให้ความช่วยเหลือเกษตรกร
ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยและรายเล็ก โดยเตรียมสูตรอาหารสุกรลดต้นทุนสำหรับผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยและรายเล็กที่มีความพร้อมในการนำสุกรเข้าเลี้ยงในการเลี้ยงที่มีการจัดการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ ภายหลังจากผ่านการตรวจประเมินความเสี่ยงโรค ASF ในสุกรตามข้อกำหนดของกรมปศุสัตว์เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันกรมปศุสัตว์เน้นย้ำการเลี้ยงสุกรในระบบฟาร์มที่มีความปลอดภัยทางชีวภาพทุกขนาดฟาร์มทั้งรายย่อย (จำนวนสุกรน้อยกว่า 50 ตัว) รายเล็ก (จำนวนสุกร 50-500 ตัว) รายกลาง (จำนวนสุกร 500-5,000 ตัว) และรายใหญ่ (จำนวนสุกรตั้งแต่ 5,000 ตัวขึ้นไป) เพื่อเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันโรคและสามารถลดความเสียหายได้
 
การเลี้ยงสุกรของเกษตรกรที่ต้องซื้อลูกสุกรมาเลี้ยง มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยในปี 2564 กิโลกรัมละ 78.40 บาท ปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 14 โดยการเลี้ยงสุกรตั้งแต่ลูกสุกรจนกระทั่งเป็นสุกรขุนได้น้ำหนักตามที่ตลาดต้องการ มีต้นทุนค่าอาหารสัตว์รวมกันประมาณร้อยละ 70 ที่ผ่านมาต้นทุนค่าอาหารสัตว์ในช่วงสุกรขุนปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 และต้นทุนค่าพันธุ์สุกรปรับเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 เนื่องจากปัจจัยด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์สำคัญคือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลืองที่นำเข้ามาปรับราคาเพิ่มขึ้นเป็นรายเดือน เฉลี่ยแล้วราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ราคากากถั่วเหลืองปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 การนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์เนื่องจากประเทศไทยมีการผลิตปศุสัตว์ที่ขยายตัว วัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ผลิตได้ภายในประเทศไม่เพียงพอจึงต้องนำเข้าทุกปี โดยการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์เสียภาษีในอัตราแตกต่างกันขึ้นกับแหล่งนำเข้าว่ามีข้อตกลงการค้าร่วมกันหรือไม่ หากเป็นการนำเข้าจากประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) กากถั่วเหลือง เสียภาษีนำเข้าร้อยละ 2 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เสียภาษีนำเข้าในโควตาร้อยละ 20 นอกโควตาร้อยละ 73 และค่าธรรมเนียมพิเศษตันละ 180 กรมศุลกากรรายงานปริมาณนำเข้าปี 2564 (ม.ค.-พ.ย.) ปริมาณนำเข้ากากถั่วเหลืองเป็น 2.64 ล้านตัน โดยนำเข้าจากประเทศบราซิลร้อยละ 90 ซึ่งต้องเสียภาษีนำเข้าร้อยละ 2 ส่วนการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็น 1.83 ล้านตัน นำเข้าจากประเทศเมียนมาร์ร้อยละ 98 
ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าแต่ต้องนำเข้าในช่วงเดือน ก.พ.-ส.ค. โดยการกำหนดนโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์อยู่ภายใต้คณะกรรมการนโยบายอาหาร ซึ่งประกอบด้วยทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนสมาคมการค้าพืชไร่ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ เป็นคณะกรรมการร่วมด้วย โดยจะมีการกำหนดทบทวนนโยบายและมาตรการในการนำเข้าคราวละ 3 ปี เพื่อให้สอดคล้องตามสถานการณ์
 
อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์พร้อมให้การสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทุกขนาดการเลี้ยง ทั้งรายย่อย รายเล็ก รายกลางและรายใหญ่ สามารถนำสุกรเข้าเลี้ยงในฟาร์มได้ โดยต้องผ่านการประเมินความเสี่ยงระดับฟาร์ม ปรับปรุงฟาร์มให้มีระบบการเลี้ยงที่มีความปลอดภัยทางชีวภาพ ซึ่งสามารถป้องกันโรค ASF ในสุกรและโรคระบาดอื่นๆ ในสุกรได้อีกด้วย ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เพื่อป้องกันความเสี่ยงและความเสียหายจากโรคระบาดในสุกร เนื่องจากปัจจุบันโรค ASF ในสุกรยังไม่มีวัคซีนและการใช้ยารักษาที่จำเพาะ สิ่งที่สำคัญในการลดความเสียหายและป้องกันโรคเข้าฟาร์มได้คือ ต้องมีระบบการป้องกันภายในฟาร์มสุกรที่ดี เช่น ไม่นำเศษอาหารมาเลี้ยงสุกร การอาบน้ำเปลี่ยนชุดเข้าฟาร์มของพนักงาน การพ่นยาฆ่าเชื้อรถขนส่ง การล้างพ่นยาฆ่าเชื้อโรงเรือน การป้องกันและกำจัดสัตว์พาหะ ยาฆ่าเชื้อที่สามารถฆ่าเชื้อ ASF ในสุกรได้นั้น ตามอัตราส่วนที่บริษัทผู้ผลิตแนะนำหรือโดยทั่วไปจะใช้ที่ 1:200 เช่น Glutaraldehyde, Phenol, Iodine, Chlorine เป็นต้น สำหรับวัคซีนซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถป้องกันโรค ASF ในสุกรได้นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยร่วมกันกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอย้ำว่าไม่สามารถกันการติดเชื้อหรือทำให้ตรวจไม่พบเชื้อ ASF ในสุกรได้ตามที่มีการนำเสนอตามสื่อออนไลน์ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันโรคคือการเลี้ยงในระบบที่มีความปลอดภัยทางชีวภาพ จึงขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงปรับปรุงฟาร์มให้มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ นอกจากนี้ ภาครัฐยังมีมาตรการสนับสนุนอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย รายเล็ก ในการกลับมาสู่อุตสาหกรรมการผลิตสุกรรอบใหม่ภายใต้การผลิตในระบบความปลอดภัยทางชีวภาพที่เหมาะสม ทั้งนี้ หากพบสุกรแสดงอาการสงสัยหรือผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่หรือเบอร์ 0632256888 หรือ Application: DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Save
Cookies user preferences
We use cookies to ensure you to get the best experience on our website. If you decline the use of cookies, this website may not function as expected.
Accept all
Decline all
Essential
คุกกี้ประเภทนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ ท่านจำเป็นต้องยอมรับให้เปิดใช้งาน
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ ได้แก่ คุกกี้ที่ทำให้เว็บไซต์สามารถทำหน้าที่ขั้นพื้นฐาน เช่น การเลื่อนสำรวจหน้าเว็บไซต์ หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์สามารถเข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนไว้ให้ใช้ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานอย่างถูกต้องได้เลยหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้
Accept
Functional
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยยอมรับหรือปฏิเสธ คุกกี้ในแต่ละประเภทดังต่อไปนี้
คุกกี้ที่ช่วยเหลือในการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้ อาจถูกติดตั้งไว้โดยผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยเป็นคุกกี้ประเภทที่ทำให้เว็บไซต์สามารถช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกในการใช้งานให้ท่านได้
Accept
Decline
คุกกี้เพื่อประสิทธิภาพ
คุกกี้ประเภทนี้ ทำให้ผู้ให้บริการเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งาน สามารถรับรู้ข้อมูลประสิทธิภาพเว็บไซต์ได้ เช่น จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ แหล่งที่มาของผู้เข้าชม และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด เป็นต้น โดยกรมปศุสัตว์จะนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านสถิติเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ เท่านั้น
Accept
Decline
คุกกี้เพื่อกำหนดเป้าหมาย
คุกกี้ประเภทนี้ อาจถูกติดตั้งไว้โดยผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม เนื่องจากเว็บไซต์กรมปศุสัตว์มีการเชื่อมโยงลิงค์ไปยังเว็บไซต์ภายนอก ซึ่งเว็บไซต์อื่นหรือโซเชียลมีเดียของบุคคลที่สามจะมีการกำหนดและตั้งค่าคุกกี้ขึ้นมาเอง โดยกรมปศุสัตว์ไม่สามารถควบคุมหรือรับผิดชอบต่อคุกกี้เหล่านั้นได้ และขอแนะนำให้ท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย โดยคุกกี้ดังกล่าว จะทำการจัดเก็บข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ของท่าน เช่น ท่านเข้าชมเว็บไซต์ใดบ้าง และเข้าชมเว็บไซต์ผ่านทางลิงก์ใดบ้าง เป็นต้น โดยผู้ให้บริการจะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อกำหนดให้เว็บไซต์ และโฆษณาที่ถูกจัดแสดงในเว็บไซต์ของบริษัทฯ เว็บไซต์ในเครือข่ายพันธมิตรของผู้ให้บริการโฆษณา มีความเกี่ยวข้องกับความสนใจของท่านมากขึ้น
Accept
Decline