วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2565 นายพงษ์พันธ์ ธรรมมา รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร การเพิ่มศักยภาพเจ้าหน้าที่ในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ สู่การพัฒนาอาชีพเกษตรกรอย่างมั่นคง เข้มแข็ง และยั่งยืน โดยมี นายธีรวิทย์ ขาวบุบผา ผู้อำนวยการกองงานพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ กล่าวรายงาน สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 14 – 16 ธันวาคม 2565 มีผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน 110 ราย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ สำนักงานปศุสัตว์เขต สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด และกองงานพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชน มาบรรยายและถ่ายทอดความรู้ ณ ไม้แก้วดำเนิน รีสอร์ท อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี
โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนได้มีโค-กระบือ สำหรับใช้แรงงานและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และพระราชทานให้กรมปศุสัตว์เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมาโครงการได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้วเป็นจำนวนกว่า 340,652 ราย มอบกรรมสิทธิ์ให้เกษตรกร จำนวน 111,208 ราย โค-กระบือ จำนวน130,480 ตัว คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 2,100 ล้านบาท โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ จึงเป็นโครงการพระราชดำริที่ช่วยเหลือ และส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกร มีรายได้ที่เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน
กรมปศุสัตว์ โดยกองงานพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ จึงได้ดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าวขึ้น นับว่าเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริเป็นอย่างยิ่ง เป็นการส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้และก่อเกิดประโยชน์กับเกษตรกรอย่างชัดเจน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนโครงการให้ประสบผลสำเร็จ แม้จะมีข้อจำกัดในด้านต่างๆ กรมปศุสัตว์จึงเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพและทัศนคติ ตลอดจนสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ และเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านจะได้นำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาการดำเนินงานของโครงการให้เกิดประสิทธิภาพต่อไป