กลุ่มเกษตรกรและภาคเอกชนได้เฮ หลัง รมว.เกษตรฯ “เฉลิมชัย” ไฟเขียวให้นำเข้า “วัคซีนลัมปีสกิน”ได้ กรมปศุสัตว์พร้อมช่วยอำนวยความสะดวก แจงขั้นตอนปฏิบัตินำเข้า ย้ำการใช้วัคซีนยต้องอยู่ภายใต้การกำกับตามระเบียบอย่างเคร่งครัด
วันนี้ (7 มิ.ย. 64) นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ตามที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์กำหนดแนวทางการสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรและภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีนเพื่อมาใช้ในการป้องกันโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือ จากสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้น สำหรับความคืบหน้าล่าสุด จากการประชุมของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโรคลัมปี สกิน ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ส่งมอบวัคซีนพร้อมกำหนดแนวทางการใช้วัคซีนตามหลักวิชาการสำหรับวัคซีนลัมปี สกิน ล็อตแรกจำนวน 60,000 โดส และ 300,000 โดส ที่มาถึงในสัปดาห์นี้ และที่สำคัญคือ พร้อมที่สนับสนุนกลุ่มเกษตรกร สมาคมผู้เลี้ยงโค-กระบือ ตลอดจนภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีน เพื่อนำมาใช้ฉีดป้องกันโรคและสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญกับการควบคุมการระบาดของโรคลัมปี สกินมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนับสนุนกลุ่มเกษตรกร สมาคมผู้เลี้ยงโค-กระบือ ตลอดจนภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีน แต่เนื่องจากปัจจุบันวัคซีนลัมปีสกินยังไม่มีการขึ้นทะเบียนกับ อย. การนำเข้า กรมปศุสัตว์จึงจะทำหน้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มเกษตรกร สมาคมผู้เลี้ยงโค-กระบือ หรือภาคเอกชน ซึ่งขณะนี้ได้มีการกำหนดขั้นตอนปฏิบัติและรายละเอียดต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“โดยผู้ประสงค์นำเข้าวัคซีนทำหนังสือถึงกรมปศุสัตว์ เพื่อแจ้งความประสงค์ขอบริจาควัคซีนลัมปี สกิน โดยต้องระบุชื่อการค้าและจำนวน เพื่อให้กรมปศุสัตว์นำไปใช้สำหรับควบคุม ป้องกัน โรคลัมปี สกิน ทั้งนี้ต้องแจ้งความประสงค์ก่อนดำเนินการก่อนนำเข้าวัคซีน”
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้น กรมปศุสัตว์จะทำหนังสือถึง อย. ขอผ่อนผันการนำเข้าวัคซีนที่มีทะเบียนในต่างประเทศ แต่ยังไม่ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย โดยกรมปศุสัตว์จะมอบหมายอำนาจให้
ผู้ประสงค์นำเข้าเป็นผู้ดำเนินการนำเข้าวัคซีน เมื่อได้รับการผ่อนผันจาก อย. ให้ผู้ประสงค์นำเข้า ดำเนินการสั่งวัคซีนและชำระค่าวัคซีนโดยตรงกับผู้ขายวัคซีนในต่างประเทศและดำเนินการขออนุญาตนำเข้าวัคซีนและขอหนังสือรับรองรุ่นการผลิต (Lot Release) จาก อย.ด้วย วัคซีนดังกล่าวจึงจะสามารถนำมาใช้ในการฉีดป้องกันโรคได้
“แต่ทั้งนี้ การนำวัคซีนไปใช้ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมปศุสัตว์ โดยต้องเป็นไปตามระเบียบกรมปศุสัตว์ว่าด้วยการฉีดวัคซีนโรคลัมปี สกินในสัตว์ชนิดโค กระบือ พ.ศ. 2564” อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการป้องกัน ควบคุมและกำจัดโรคลัมปี สกินให้ได้ผลนั้น การใช้วัคซีนเป็นเพียงมาตรการหนึ่งใน 5 มาตรการ ได้แก่ การควบคุมการเคลื่อนย้ายโค-กระบือ เพื่อลดการแพร่กระจายของโรค และปฏิบัติตามแนวทางการเคลื่อนย้ายอย่างเคร่งครัด การเฝ้าระวังการเกิดโรคอย่างใกล้ชิด เน้นการรู้โรคให้เร็ว ควบคุมได้ทัน โรคสงบได้อย่างรวดเร็ว การป้องกัน และควบคุมแมลงพาหะนำโรค ให้เกษตรกรป้องกันโดยใช้สารกำจัดแมลงทั้งบนตัวสัตว์ และบริเวณโดยรอบฟาร์ม ทั้งในพื้นที่ระบาดของโรคและพื้นที่เสี่ยง การรักษาสัตว์ป่วยตามอาการ การใช้วัคซีนควบคุมโรค ซึ่งต้องทำควบคู่กันไปทุกๆมาตรการ จึงจะทำให้การป้องกันและควบคุมโรคมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โรคสงบ โดยเร็ว
**************************************
ข้อมูล/ข่าว : ทีมโฆษกกรมปศุสัตว์ (7 มิ.ย. 2564) ข่าวปศุสัตว์