กรมปศุสัตว์นำทุกภาคส่วนตรวจสอบตู้สินค้าคงค้าง ยืนยันเร่งทำลายเร็วที่สุด

 21

อธิบดีกรมปศุสัตว์ร่วมกับคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเปิดตรวจตู้สินค้าคงค้างที่ท่าเรือแหลมฉบัง ยืนยันขั้นตอนทำลายดำเนินการด้วยความโปร่งใส โดย “หมูเถื่อน” 161 ตู้ที่ได้รับมอบจากกรมศุลกากรแล้ว เหลือที่ต้องทำลาย 140 ตู้ อยู่ระหว่างการหาสถานที่ฝังทำลายที่เหมาะสมใหม่ ส่วนตู้ตกค้าสินค้าอื่น (ไก่ โค กระบือ) จำนวน 74 ตู้ อยู่ระหว่างกระบวนการ รับมอบจากกรมศุลกากรเพื่อนำของกลางไปทำลายตามกฎหมาย ย้ำเดินหน้ายุทธการปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อนตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

12 ตุลาคม 2566 นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานร่วมในการประชุมกับคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนได้แก่ กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง สภาเกษตรกรแห่งชาติ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เกี่ยวกับการรายงานผลการทำลายตู้สินค้าประเภทซากชิ้นส่วนสุกรของกลาง ในคดีพิเศษที่ 59/2566 จำนวน 161 ตู้ และตู้ตกค้างประเภทอื่น (ไก่ โค กระบือ) จำนวน 74 ตู้ ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี

อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า หลังจากกรมปศุสัตว์ได้รับมอบซากชิ้นส่วนสุกรของของกลางในคดีพิเศษที่ 59/2566 จากกรมศุลกากรแล้ว เมื่อวันที่ 29-30 กันยายน 2566 กรมปศุสัตว์ได้เผาทำลายจํานวน 1 ตู้ ณ สำนักงานชลประทานที่ 9 จังหวัดชลบุรี และนำไปฝังทำลายจำนวน 20 ตู้ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สระแก้ว ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาน จังหวัดสระแก้ว ช่วงระหว่างวันที่ 1-3 ตุลาคม 2566

ต่อมามีการคัดค้านการฝังทำลายซากสุกรดังกล่าวจากชาวบ้านในพื้นที่ คณะทำงานร่วมฯ จึงได้ประสานเพื่อนำตู้สินค้าของกลาง 140 ตู้ ที่ยังไม่ได้ฝังทำลายกลับเก็บรักษาที่ท่าเรือแหลมฉบังชั่วคราว โดยจัดให้มีรถตำรวจทางหลวงนำขบวนรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ แล้วมีรถของเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษปิดท้ายขบวน เพื่อนำมาจัดเก็บไว้ที่ลานกลางทุ่ง สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาสถานที่ฝังทำลายที่เหมาะสมต่อไป

นอกจากนี้ยังมีตู้สินค้าตกค้างประเภทอื่น (ไก่ โค กระบือ) จำนวน 74 ตู้ โดยมีหนังสือส่งมอบจากสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งด่านกักกันสัตว์ชลบุรีอยู่ระหว่างกระบวนการรับมอบเพื่อให้คณะทำงานตรวจสอบตู้ร่วมกัน หลังจากนั้นจะรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมไปดำเนินดคีเพื่อให้ผู้กระทำความผิดรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการฝังทำลายตามขั้นตอนของกฎหมายด้วยความโปร่งใส และในวันนี้ได้มีการเปิดตู้เพื่อตรวจสอบจำนวน 10 ตู้ ส่วนที่เหลือจำนวน 64 ตู้ หลังจากนี้คณะทำงานฯจะเร่งดำเนินการเปิดตรวจสอบให้ครบทุกตู้โดยเร็วที่สุดต่อไป

อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ทันทีที่หาสถานที่ฝังทำลายซากชิ้นส่วนสุกรของกลางที่เหมาะสมแห่งใหม่ได้ จะเร่งทำลาย ทั้ง 140 ตู้ ส่วนตู้สินค้าตกค้างประเภทอื่น (ไก่ โค กระบือ) จำนวน 74 ตู้ อยู่ระหว่างการรับมอบนำของกลางไปทำลายตามกฏหมาย จะเร่งนำของกลางนำไปทำลายเช่นเดียวกัน เป็นไปตามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมปศุสัตว์และกรมศุลกากร เรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีที่มีการจับกุมดำเนินคดีลักลอบนำสัตว์หรือซากสัตว์เข้าในราชอาณาจักร และภายใต้พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558

ตลอดปี 2565 ถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ได้ร่วมกับตำรวจ ทหาร ศุลกากร เข้าตรวจสอบผู้ประกอบการสินค้าประเภทซากสุกรรวมจำนวนทั้งสิ้น 238 ครั้ง สามารถจับกุมซากชิ้นส่วนสุกรซึ่งมีแหล่งผลิตต้นทางจากประเทศบราซิล อิตาลี เยอรมนี ลักลอบนำเข้า ปริมาณน้ำหนักรวม 1,142,487 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 190 ล้านบาท

ที่มา : กองสารวัตรและกักกัน กรมปศุสัตว์

 


Save
Cookies user preferences
We use cookies to ensure you to get the best experience on our website. If you decline the use of cookies, this website may not function as expected.
Accept all
Decline all
Essential
คุกกี้ประเภทนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ ท่านจำเป็นต้องยอมรับให้เปิดใช้งาน
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ ได้แก่ คุกกี้ที่ทำให้เว็บไซต์สามารถทำหน้าที่ขั้นพื้นฐาน เช่น การเลื่อนสำรวจหน้าเว็บไซต์ หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์สามารถเข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนไว้ให้ใช้ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานอย่างถูกต้องได้เลยหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้
Accept
Functional
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยยอมรับหรือปฏิเสธ คุกกี้ในแต่ละประเภทดังต่อไปนี้
คุกกี้ที่ช่วยเหลือในการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้ อาจถูกติดตั้งไว้โดยผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยเป็นคุกกี้ประเภทที่ทำให้เว็บไซต์สามารถช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกในการใช้งานให้ท่านได้
Accept
Decline
คุกกี้เพื่อประสิทธิภาพ
คุกกี้ประเภทนี้ ทำให้ผู้ให้บริการเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งาน สามารถรับรู้ข้อมูลประสิทธิภาพเว็บไซต์ได้ เช่น จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ แหล่งที่มาของผู้เข้าชม และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด เป็นต้น โดยกรมปศุสัตว์จะนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านสถิติเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ เท่านั้น
Accept
Decline
คุกกี้เพื่อกำหนดเป้าหมาย
คุกกี้ประเภทนี้ อาจถูกติดตั้งไว้โดยผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม เนื่องจากเว็บไซต์กรมปศุสัตว์มีการเชื่อมโยงลิงค์ไปยังเว็บไซต์ภายนอก ซึ่งเว็บไซต์อื่นหรือโซเชียลมีเดียของบุคคลที่สามจะมีการกำหนดและตั้งค่าคุกกี้ขึ้นมาเอง โดยกรมปศุสัตว์ไม่สามารถควบคุมหรือรับผิดชอบต่อคุกกี้เหล่านั้นได้ และขอแนะนำให้ท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย โดยคุกกี้ดังกล่าว จะทำการจัดเก็บข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ของท่าน เช่น ท่านเข้าชมเว็บไซต์ใดบ้าง และเข้าชมเว็บไซต์ผ่านทางลิงก์ใดบ้าง เป็นต้น โดยผู้ให้บริการจะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อกำหนดให้เว็บไซต์ และโฆษณาที่ถูกจัดแสดงในเว็บไซต์ของบริษัทฯ เว็บไซต์ในเครือข่ายพันธมิตรของผู้ให้บริการโฆษณา มีความเกี่ยวข้องกับความสนใจของท่านมากขึ้น
Accept
Decline