วันที่ 27 สิงหาคม 2561 เวลา 9.00 น. นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานกล่าวเปิดงานการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ ครั้งที่ 39 สมัยพิเศษ (Special SOM-39th AMAF) การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้กับเจ้าหน้าที่อาวุโสของจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 17 สมัยพิเศษ (Special SOM-17th AMAF Plus Three) และการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-รัสเซียด้านการเกษตร ครั้งที่ 3 (3rd ARSOMA) และการดูงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุม ระหว่างวันที่ 26-31 สิงหาคม 2561 โดยมีนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวต้อนรับ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน SOM Leaders เลขาธิการอาเซียน นายกเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ณ โรงแรมดุสิตธานี พัทยา จังหวัดชลบุรี
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมฯ ครั้งนี้ มีเลขาธิการ มกอช. เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทย และคณะผู้แทนไทยประกอบด้วยอธิบดีหรือผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ ภายใต้กระทรวงเกษตรฯ และกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จุดประสงค์ในการประชุมเพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้ (ASEAN Ministerial meeting on Agriculture and Forestry; AMAF) ประจำปี 2561 ซึ่งมีเวียดนามเป็นเจ้าภาพในลำดับต่อไป
มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรมปศุสัตว์ ดังนี้
- รายงานการประชุม The 26th ASEAN Sectoral Working Group on Livestock (ASWGL) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2561 ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งกรมปศุสัตว์เห็นชอบผลการประชุมฯ ดังกล่าว
- รายงานการประชุม The 14th ASEAN Working Group on Halal Food (AWGHF) ซึ่งจัดงานระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2561 ณ ประเทศไทย
- การให้สัตยาบันสารความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนด้านสุขภาพสัตว์และโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน (ACCAHZ) ที่ลงนามเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2559 โดยต้องมีการจัดตั้งภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2561 ได้มีการดำเนินการแล้ว 6 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม คงเหลือ 4 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ลาว อินโดนีเซีย และประเทศไทย ซึ่ีงกรมปศุสัตว์สนับสนุนคำขอของอินโดนีเซีย เรื่องขอเลื่อนกำหนดวันหมดอายุการให้สัตยาบันออกไปอีก 6 เดือน เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาร่าง พรบ.เอกสิทธิ์และความคุ้มกันสำหรับองค์การระหว่างประเทศ ในสภา โดยต้องอาศัยและอ้างอิงร่างฯ นี้ ในการให้สัตยาบัน
ที่่มาของข้อมูล : ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร