วันที่ 14 ธันวาคม 2562 เวลา 10.00 น. นายประภัตร โพธสุธน รมช.กษ. เป็นประธานพิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมด้วย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กษ. นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัด กษ. และผู้บริหารกษ. โดยนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ผอ.กอง/สำนัก เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และประชาชนทั่วไป ร่วมพิธีฯ ครั้งนี้
เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก กรมปศุสัตว์ ได้จัดทำโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ แด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดชสยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์โดยสมบูรณ์ การดำเนินงานมี 2 กิจกรรม ประกอบด้วย 1. การมอบกรรมสิทธิ์โค-กระบือแก่เกษตรกร ที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ไม่น้อยกว่า 10,000 ราย และ 2. การไถ่ชีวิตโค-กระบือเพศเมีย จำนวน 4,910 ตัว โดยมอบหมายให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดทุกจังหวัดดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนร่วมสมทบทุนเพื่อจัดหาโค-กระบือ เป้าหมาย จำนวน 4,000 ตัว และในส่วนกลาง จำนวน 910 ตัว เป็นโค 820 ตัว กระบือ 90 ตัว ซึ่งได้นำมาจัดพิธีไถ่ชีวิตในวันนี้ กรมปศุสัตว์จะนำไปให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรภายใต้ระเบียบและหลักเกณฑ์ของโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ในพื้นที่ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา รับมอบโค 300 ตัว และกระบือ 90 ตัว, จังหวัดศรีสะเกษ รับมอบโค 120 ตัว, จังหวัดร้อยเอ็ด รับมอบโค 100 ตัว, จังหวัดนครพนม รับมอบโค 100 ตัว, จังหวัดกาฬสินธุ์ รับมอบโค 100 ตัว และจังหวัดชัยนาท รับมอบโค 100 ตัว
โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ เป็นโครงการพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งกรมปศุสัตว์รับสนองพระราชดำริ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีโค-กระบือไว้ใช้แรงงาน และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร จากการโดยดำเนินงานที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ได้ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้วกว่า 293,079 ราย มอบกรรมสิทธิ์โค-กระบือให้แก่เกษตรกรไปแล้วกว่า 156,840 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,156.377 ล้านบาท อีกทั้งยังมีเกษตรกรที่อยู่ในความดูแลของโครงการกว่า 107,700 ราย
ปัจจุบัน จึงถือได้ว่าโครงการฯ สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกร โดยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในการดำเนินงาน ประกอบกับมีการทำงานบูรณาการร่วมกันในพื้นที่อย่างเป็นระบบ สนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มเกษตรกรและให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารโครงการฯ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง ตลอดจนมีการต่อยอดการใช้ประโยชน์ เช่น การใช้มูลสัตว์เป็นปุ๋ยในไร่นา การทำแก๊สชีวภาพ การอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีในท้องถิ่น เป็นต้น
ณ หอประชุมใหญ่พุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
ที่มาของข้อมูล : คณะทำงานโฆษกกรมปศุสัตว์