นายสรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับรายงานมีผู้ร้องเรียนว่ามีสถานประกอบการแห่งหนึ่งโพสต์ขายเนื้อโคนำเข้า และเนื้อสุกร ผิดกฎหมาย ในสื่อโซเชียลทาง Facebook จึงได้สั่งการด่วนให้ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไทเร่งลงพื้นที่สืบหาสถานประกอบการและเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องฯ ดังกล่าว โดยดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปรามปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เข้าตรวจสอบสถานประกอบการ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ในวันที่ 22 มีนาคม 2565 นั้น
ผลจากการเข้าตรวจสอบ พบว่ามีเนื้อนำเข้าจากต่างประเทศ จัดเก็บอยู่ในห้องเย็น ขนาด 5x9 เมตร เป็นเนื้อโคจำนวน 1,668 กิโลกรัม และเนื้อสุกรและเครื่องในสุกร จำนวน 1,500 กิโลกรัม ซึ่งสถานประกอบการดังกล่าว ประกอบกิจการลักษณะขายเนื้อสัตว์ส่งออนไลน์ทั่วประเทศ พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารแหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ เจ้าของสถานประกอบการไม่สามารถแสดงใบอนุญาตค้าสัตว์หรือซากสัตว์ (ร.10/1) และใบเคลื่อนย้ายซากสัตว์ได้ จึงได้ดำเนินการตามกฏหมาย มีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ 2558 มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงได้เปรียบเทียบปรับ ให้ไปชำระเงินค่าปรับที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดปทุมธานี ภายใน 15 วัน และพนักงานเจ้าหน้าที่ได้อายัดเนื้อโค จำนวน 1,668 กิโลกรัม และซากสุกร จำนวน 1,500 กิโลกรัม โดยให้นำเอกสารมาแสดง ภายใน 15 วัน และเก็บตัวอย่างเนื้อโค จำนวน 2 ตัวอย่าง ส่งตรวจหาเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคทางห้องปฏิบัติการของกรมปศุสัตว์ หากครบกำหนดเวลาแล้วผู้ประกอบการยังไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากประชาชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิด โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ หรือ www.dld.go.th หรือแอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือ สายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
ข้อมูล : คณะทำงานโฆษกกรมปศุสัตว์ ข่าวปศุสัตว์