011725651

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ประเทศไทยประกาศว่าพบเชื้อ ASF กรมปศุสัตว์ระดมกำลังทั่วประเทศเน้นทำงานเชิงรุกเพื่อควบคุมการระบาดของโรค ASF ไม่ให้แพร่กระจายในวงกว้าง โดยเน้นหลักปฏิบัติสากลของระบาดวิทยาตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ที่ประกาศให้โรค ASF เป็นโรคระบาดสัตว์ การควบคุมโรคระบาดจึงเริ่มตั้งแต่สุกรมีชีวิตที่ฟาร์ม หากพบสุกรติดเชื้อ ASF ที่ป่วย​ ตายหรือสงสัยว่าติดเชื้อเพราะเลี้ยงด้วยกันต้องห้ามเคลื่อนย้ายสุกรทั้งหมดตามรัศมี 5 กิโลเมตรโดยรอบจุดพบโรค อีกทั้งสุกรทั้งหมดในจุดเกิดโรคต้องถูกกำจัดด้วยการเผาหรือฝังกลบตามหลักการเพื่อทำลายเชื้อ​ ห้ามนำเข้าฆ่าเพื่อบริโภคโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อ ASF แพร่กระจายออกไป โดยเฉพาะเชื้อไวรัส ASF ที่มีความทนทานอยู่รอดในสิ่งต่างๆ ได้ยาวนาน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในวงกว้างและให้ประเทศไทยควบคุมการระบาดของโรค ASF ได้โดยไว ทั้งนี้หลักปฏิบัติดังกล่าวเป็นข้อบังคับตามกฎหมายที่ต้องปฏิบัติทั้งเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ หากต้องสงสัยการติดเชื้อ ASF ในสุกร เช่น มีการตายเฉียบพลัน มีไข้สูง ผิวหนังแดง มีจุดเลือดออก หรือรอยช้ำโดยเฉพาะหลังใบหู ท้อง ขาหลัง มีอาการทางระบบอื่น เช่น ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร การแท้งในช่วงของการตั้งท้อง ให้รีบแจ้งกรมปศุสัตว์ทันทีที่เบอร์ 063-225-6888 เพื่อเข้าควบคุมโรคและดำเนินการชดเชยตามกฎหมายต่อไป รวมทั้งการเคลื่อนย้ายสุกรและซากสุกรต้องมีใบอนุญาตเคลื่อนย้ายให้ถูกต้องทุกครั้ง ขอความร่วมมืออย่าปิดบังโรคเพราะจะทำให้ฟาร์มท่านคุมโรคไม่ได้ มีโรควนเวียนในฟาร์มอีกยาวนานยิ่งสร้างความเสียหายมากกว่าเดิมและที่ลักลอบนำไปจำหน่ายไม่คุ้มกับการที่รัฐชดเชยให้แต่อย่างใด อีกทั้งเจ้าหน้าที่รัฐจะช่วยให้คำแนะนำในการปรับปรุงระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ตามมาตรฐาน GFM หรือ GAP เพื่อป้องกันโรคนี้ให้แก่ฟาร์มท่าน

กรมปศุสัตว์ยังขอยืนยันด้วยข้อมูลทางวิชาการว่าโรค ASF เกิดเฉพาะในสุกรเท่านั้น ย้ำว่าไม่ก่อโรคในคนหรือสัตว์อื่นแน่นอน และขอผู้บริโภคให้มั่นใจได้ว่าเนื้อและอวัยวะสุกรที่จำหน่ายในไทยยังมีความปลอดภัยรับประทานได้ตามปกติ เนื้อสุกรส่วนใหญ่ตามสถานที่จำหน่ายมีความปลอดภัยจากเชื้อ ASF เพราะตาม พ.ร.บ.ควบคุมการสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 โรงฆ่าสัตว์ที่ได้รับใบอนุญาตต้องเข้มงวดตรวจสอบคัดกรองสุขภาพก่อนฆ่า (Ante-mortem inspection) แหละหลังฆ่า (Post-mortem inspection) ไม่ให้มีสุกรป่วยด้วยอาการ ASF หรือโรคระบาดอื่นๆ เข้าผลิตและจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งเป็นการควบคุมการระบาดของโรคที่สำคัญอีกจุดหนึ่งด้วย จะเห็นได้ว่ากรมปศุสัตว์ให้ความสำคัญกับการสกัดกั้นเชื้อ ASF ตั้งแต่ที่ฟาร์มจนถึงหน้าโรงฆ่าเพื่อควบคุมไม่ให้มีเชื้อ ASF หลุดไปในเนื้อสุกรเนื่องจากหากมีเนื้อสุกรที่สงสัยว่าติดเชื้อ ASF หลุดเข้าไปในตลาดในเขียงจะทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายออกไปเป็นบริเวณกว้างยากต่อการควบ​คุม​ทำให้เกิดโรคต่อเนื่องในไทย

สุดท้ายนี้ แนะนำให้ประชาชนปรุงเนื้อสุกรให้สุกก่อนการบริโภคทุกครั้งด้วยอุณหภูมิอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส เวลา 30 นาทีขึ้นไปเพื่อทำลายเชื้อโรค ASF อีกทั้งยังทำลายเชื้ออื่นๆที่อาจจะติดมาด้วย เช่น โรคหูดับ โรคพยาธิหรือโรคที่ทำให้เกิดท้องเสีย เป็นต้น และสามารถเลี่ยงความเสี่ยงจากโรคเหล่านี้ได้ด้วยการเลือกซื้อเนื้อสุกรจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ มีสุขอนามัยการผลิตที่ดีและสามมารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่ามาจากฟาร์ม GAP และโรงฆ่ามาตรฐาน ดังเช่นสถานที่จำหน่ายที่ได้รับรอง “ปศุสัตว์ OK” เท่านี้ก็จะยิ่งสบายใจทานเนื้อสุกรได้ตามปกติ หากมีข้อสอบถามเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ผ่าน Application: DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวและข้อมูลโดย : สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ (สพส.) กรมปศุสัตว์ (17 มกราคม 2565)

 


บันทึก
การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยยอมรับหรือปฏิเสธ คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่มีความจำเป็น
ยอมรับทั้งหมด
ปฏิเสธทั้งหมด
Essential
คุกกี้ประเภทนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ ท่านจำเป็นต้องยอมรับให้เปิดใช้งาน
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ ได้แก่ คุกกี้ที่ทำให้เว็บไซต์สามารถทำหน้าที่ขั้นพื้นฐาน เช่น การเลื่อนสำรวจหน้าเว็บไซต์ หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์สามารถเข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนไว้ให้ใช้ได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานอย่างถูกต้องได้เลยหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้
ยอมรับ
Functional
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยยอมรับหรือปฏิเสธ คุกกี้ในแต่ละประเภทดังต่อไปนี้
คุกกี้ที่ช่วยเหลือในการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้ อาจถูกติดตั้งไว้โดยผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยเป็นคุกกี้ประเภทที่ทำให้เว็บไซต์สามารถช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกในการใช้งานให้ท่านได้
ยอมรับ
ปฏิเสธ
คุกกี้เพื่อประสิทธิภาพ
คุกกี้ประเภทนี้ ทำให้ผู้ให้บริการเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งาน สามารถรับรู้ข้อมูลประสิทธิภาพเว็บไซต์ได้ เช่น จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ แหล่งที่มาของผู้เข้าชม และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด เป็นต้น โดยกรมปศุสัตว์จะนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านสถิติเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ เท่านั้น
ยอมรับ
ปฏิเสธ
คุกกี้เพื่อกำหนดเป้าหมาย
คุกกี้ประเภทนี้ อาจถูกติดตั้งไว้โดยผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม เนื่องจากเว็บไซต์กรมปศุสัตว์มีการเชื่อมโยงลิงค์ไปยังเว็บไซต์ภายนอก ซึ่งเว็บไซต์อื่นหรือโซเชียลมีเดียของบุคคลที่สามจะมีการกำหนดและตั้งค่าคุกกี้ขึ้นมาเอง โดยกรมปศุสัตว์ไม่สามารถควบคุมหรือรับผิดชอบต่อคุกกี้เหล่านั้นได้ และขอแนะนำให้ท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย โดยคุกกี้ดังกล่าว จะทำการจัดเก็บข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ของท่าน เช่น ท่านเข้าชมเว็บไซต์ใดบ้าง และเข้าชมเว็บไซต์ผ่านทางลิงก์ใดบ้าง เป็นต้น โดยผู้ให้บริการจะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อกำหนดให้เว็บไซต์ และโฆษณาที่ถูกจัดแสดงในเว็บไซต์ของบริษัทฯ เว็บไซต์ในเครือข่ายพันธมิตรของผู้ให้บริการโฆษณา มีความเกี่ยวข้องกับความสนใจของท่านมากขึ้น
ยอมรับ
ปฏิเสธ